คำแถง ขอคืนค่าขึ้นศาลกรณีพิเศษ (กรณีทำยอม)
ข้อ ๑.คดีนี้ โจทก์และจำเลยสามารถตกลงกันได้โดยการทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันต่อหน้าศาล และศาลได้โปรดมีคำพิพากษาตามยอมแล้ว
ข้อ ๒. เนื่องด้วยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา ๑๕๑ วรรคสอง กำหนดให้ในกรณีที่คดีเสร็จเด็ดขาดลงโดยสัญญาหรือการประนีประนอมยอมความ ให้ศาลมีอำนาจสั่งคืนค่าขึ้นศาลทั้งหมดหรือแต่บางส่วนแก่คู่ความซึ่งได้เสียไว้ได้ตามที่เห็นสมควร และเพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระของจำเลย ซึ่งต้องรับผิดในค่าขึ้นศาลในส่วนที่ศาลไม่สั่งคืน
จึงขอศาลได้โปรดมีคำสั่งให้คืนค่าขึ้นศาลแก่โจทก์เป็นกรณีพิเศษด้วย
ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด
ลงชื่อ………………………………………………..ผู้รับมอบอำนาจโจทก์
คำแถลง ฉบับนี้ข้าพเจ้านางพรปวีณ์ เจริญรัตนาสกุล ทนายความโจทก์ เป็นผู้เรียงและพิมพ์
ลงชื่อ…………………………………………………ผู้เรียงและพิมพ์
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 151
มาตรา 151 ในกรณีที่ศาลมีคำสั่งไม่รับคำฟ้องหรือในกรณีที่มีการอุทธรณ์ หรือฎีกาหรือมีคำขอให้พิจารณาใหม่ ถ้าศาลไม่รับอุทธรณ์หรือฎีกาหรือคำขอให้พิจารณาใหม่ หรือศาลอุทธรณ์หรือศาลฎีกามีคำสั่งให้ยกอุทธรณ์หรือฎีกาโดยยังมิได้วินิจฉัยประเด็นแห่งอุทธรณ์หรือฎีกานั้น ให้ศาลมีคำสั่งให้คืนค่าขึ้นศาลทั้งหมด
เมื่อได้มีการถอนคำฟ้อง หรือเมื่อศาลได้ตัดสินให้ยกคำฟ้องโดยไม่ตัดสิทธิโจทก์ที่จะฟ้องคดีใหม่ หรือเมื่อคดีนั้นได้เสร็จเด็ดขาดลงโดยสัญญาหรือการประนีประนอมยอมความหรือการพิพากษาตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ ให้ศาลมีอำนาจที่จะสั่งคืนค่าขึ้นศาลทั้งหมด หรือบางส่วนแก่คู่ความซึ่งได้เสียไว้ได้ตามที่เห็นสมควร
ในกรณีที่มีการทิ้งฟ้องหรือศาลสั่งจำหน่ายคดีในกรณีอื่น ให้ศาลมีอำนาจที่จะสั่งคืนค่าขึ้นศาลบางส่วนได้ตามที่เห็นสมควร
ถ้าศาลอุทธรณ์หรือศาลฎีกามีคำสั่งให้ส่งสำนวนความคืนไปยังศาลล่างเพื่อตัดสินใหม่หรือเพื่อพิจารณาใหม่ทั้งหมดหรือแต่บางส่วนตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๒๔๓ ศาลอุทธรณ์หรือศาลฎีกามีอำนาจที่จะยกเว้นมิให้คู่ความต้องเสียค่าธรรมเนียมศาลในการดำเนินกระบวนพิจารณาใหม่ หรือในการที่จะยื่นอุทธรณ์หรือฎีกาคัดค้านคำพิพากษาใหม่ของศาลล่างได้ตามที่เห็นสมควร