คำร้อง ขอยกเว้นค่าธรรมเนียมศาล
ข้อ ๑.คดีนี้ โจทก์ได้ยื่นคำฟ้องต่อศาลในวันนี้
ข้อ ๒. โจทก์ขอกราบเรียนต่อศาลที่เคารพว่าทุนทรัพย์ในคดีนี้เป็นเงินจำนวน ๑,๗๐๕,๐๐๐ บาท (หนึ่งล้านเจ็ดแสนห้าพันบาทถ้วน) ซึ่งโจทก์จะต้องวางเงินค่าธรรมเนียมในการยื่นคำฟ้องเป็นเงิน ๓๔,๑๐๐ บาท (สามหมื่นสี่พันหนึ่งร้อยบาทถ้วน) แต่เนื่องจากโจทก์ มีเงินไม่เพียงพอต่อการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน และมีเงินไม่เพียงพอที่จะนำมาจ่ายเป็นค่าธรรมเนียมศาลในการยื่นฟ้องในคดีนี้ได้ โจทก์ไม่มีรายได้อื่นใด เพราะโจทก์ประกอบอาชีพรับจ้างและส่งเงินให้บุตรทั้งสามเรียนหนังสือ อีกทั้งโจทก์ยังมีรายจ่ายประจำเกี่ยวกับรายจ่ายภายในครอบครัวและต้องชำระหนี้สินซึ่งเป็นหนี้สินที่โจทก์และครอบครัวจะต้องชำระเป็นประจำ โจทก์มีความประสงค์ที่จะยื่นฟ้องคดีนี้ แต่โจทก์ติดปัญหาที่ว่าไม่สามารถจะหาเงินมาวางเป็นค่าธรรมเนียมศาลได้ซึ่งหากโจทก์ไม่ได้รับยกเว้นค่าธรรมเนียมศาลก็จะได้รับความเดือดร้อนเกินสมควร ซึ่งโจทก์ยังมีความประสงค์ที่จะฟ้องคดีจำเลยทั้งสองนี้ต่อศาล
ดังที่โจทก์ได้ประทานกราบเรียนต่อศาลมาข้างต้น ขอศาลได้โปรดนัดไต่สวนคำร้อง และได้โปรดอนุญาตให้โจทก์ฟ้องคดีนี้โดยได้รับยกเว้นค่าธรรมเนียมศาล เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมขอศาลได้โปรดอนุญาต
ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด
ลงชื่อ………………………………………………..ผู้รับมอบอำนาจโจทก์
คำร้องฉบับนี้ข้าพเจ้านางพรปวีณ์ เจริญรัตนาสกุล ทนายความโจทก์ เป็นผู้เรียงและพิมพ์
ลงชื่อ…………………………………………………ผู้เรียงและพิมพ์
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 149
มาตรา 149 ค่าฤชาธรรมเนียม ได้แก่ ค่าธรรมเนียมศาล ค่าสืบพยานหลักฐานนอกศาล ค่าป่วยการ ค่าพาหนะเดินทาง และค่าเช่าที่พักของพยาน ผู้เชี่ยวชาญ ล่าม และเจ้าพนักงานศาล ค่าทนายความ ค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดี ตลอดจนค่าธรรมเนียมหรือค่าใช้จ่ายอื่น ๆ บรรดาที่กฎหมายบังคับให้ชำระ
ภายใต้บังคับบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายนี้หรือกฎหมายอื่น ว่าด้วยการยกเว้นค่าธรรมเนียมศาล ค่าธรรมเนียมศาลที่เป็นค่าขึ้นศาล ให้คู่ความผู้ยื่นคำฟ้องเป็นผู้ชำระเมื่อยื่นคำฟ้อง
ค่าธรรมเนียมศาลนั้น ให้ชำระหรือนำมาวางศาลเป็นเงินสดหรือเช็คซึ่งธนาคารรับรอง โดยเจ้าพนักงานศาลออกใบรับให้ หรือตามวิธีการที่กำหนดไว้ในข้อกำหนดของประธานศาลฎีกา คำฟ้อง คำฟ้องอุทธรณ์ คำฟ้องฎีกา คำร้องสอด คำให้การ หรือคำร้องคำขออื่นซึ่งได้ยื่นต่อศาลพร้อมคำร้องขอยกเว้นค่าธรรมเนียมศาลตามมาตรา 156 ตลอดจนการดำเนินกระบวนพิจารณาในชั้นไต่สวนคำร้องดังกล่าว ไม่ต้องนำเงินค่าธรรมเนียมศาลและเงินวางศาลมาชำระ เว้นแต่ศาลจะได้ยกคำร้องนั้นเสีย
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 155
มาตรา 155 คู่ความซึ่งไม่สามารถเสียค่าธรรมเนียมศาลอาจยื่นคำร้องต่อศาลขอให้ยกเว้นค่าธรรมเนียมศาลในการฟ้องหรือต่อสู้คดีในศาลชั้นต้นหรือชั้นอุทธรณ์หรือชั้นฎีกาตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 156 และมาตรา 156/1
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 156
มาตรา 156 ผู้ใดมีความจำนงจะขอยกเว้นค่าธรรมเนียมศาลในการฟ้องหรือต่อสู้คดี ให้ยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นที่จะฟ้องหรือได้ฟ้องคดีไว้นั้นพร้อมกับคำฟ้อง คำฟ้องอุทธรณ์ คำฟ้องฎีกา คำร้องสอด หรือคำให้การ แล้วแต่กรณี แต่ถ้าบุคคลนั้นตกเป็นผู้ไม่สามารถเสียค่าธรรมเนียมศาลในภายหลัง จะยื่นคำร้องในเวลาใด ๆ ก็ได้
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 156/1
มาตรา 156/1 เมื่อศาลพิจารณาคำร้องขอยกเว้นค่าธรรมเนียมศาลเสร็จแล้วให้ศาลมีคำสั่งโดยเร็ว โดยศาลจะมีคำสั่งอนุญาตทั้งหมดหรือแต่เฉพาะบางส่วน หรือยกคำร้องนั้นเสียก็ได้
ห้ามมิให้ศาลอนุญาตตามคำร้องเช่นว่านั้น เว้นแต่จะเป็นที่เชื่อได้ว่าผู้ร้องไม่มีทรัพย์สินพอที่จะเสียค่าธรรมเนียมศาลหรือหากผู้ร้องไม่ได้รับยกเว้นค่าธรรมเนียมศาลจะได้รับความเดือดร้อนเกินสมควรเมื่อพิจารณาถึงสถานะของผู้ร้อง และในกรณีผู้ร้องเป็นโจทก์หรือผู้อุทธรณ์หรือฎีกา การฟ้องร้องหรืออุทธรณ์หรือฎีกานั้นมีเหตุผลอันสมควรด้วย
เมื่อคู่ความคนใดได้รับยกเว้นค่าธรรมเนียมศาลในการฟ้องหรือต่อสู้คดีในศาลชั้นต้นแล้วยื่นคำร้องเช่นว่านั้นในชั้นอุทธรณ์หรือฎีกา แล้วแต่กรณี อีก ให้ถือว่าคู่ความนั้นยังคงไม่มีทรัพย์สินพอจะเสียค่าธรรมเนียมศาลหรือหากไม่ได้รับยกเว้นค่าธรรมเนียมศาลแล้วจะได้รับความเดือดร้อนเกินสมควรอยู่ เว้นแต่จะปรากฏต่อศาลเป็นอย่างอื่น
ในกรณีที่ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ยกเว้นค่าธรรมเนียมศาลให้แต่เฉพาะบางส่วน หรือมีคำสั่งให้ยกคำร้อง ผู้ขออาจอุทธรณ์คำสั่งนั้นต่อศาลได้ภายในกำหนด 7 วันนับแต่วันมีคำสั่ง คำสั่งของศาลอุทธรณ์เช่นว่านี้ให้เป็นที่สุด